Chapter 5 : The end
“รู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เจ็บ นายรู้ได้ยังไง” จุนโฮร้องไห้จนหลับไป
.
.
ตั้งแต่เช้ายังไม่มีใครเจอจุนโฮเลย ถามชานซองก็ตอบแค่ไม่รู้ นิชคุณเริ่มเป็นห่วงสถานการณ์ของทั้งคู่แล้ว
“แทคเดี๋ยวคุณไปตามจุนโฮก่อน เราต้องไปแล้ว นี่แล้วเมื่อเช้าก็ไม่ได้ออกมาใช่ไหม” แทคเริ่มกังวลกับแผนการของตัวเอง นี่เขาทำเกินไปหรือเปล่า ตามไปด้วยดีกว่า
“จุนโฮ นี่พี่คุณนะ จุนโฮ” เงียบ.... ไม่ล็อคประตูด้วย เปิดเข้าไปเลยแล้วกัน
จุนโฮ หลับอยู่บนเตียงใบหน้าเปื้อนน้ำตา สภาพแบบนี้นิชคุณรู้สึกเสียใจจริง ๆ เอื้อมมือไปลูบใบหน้าซีดนั้น
“ตัวร้อนด้วยเดี๋ยวคุณจะเช็คตัวให้น้องก่อน แทคถ้าจุนโฮไม่ไปงานแถลงข่าว...”
“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวไปถามให้นะ”
“พี่คุณ ผมไหว ขอซุปร้อนๆ ก็พอครับ ผมขอโทษ” เสียงขอโทษแผ่วเบา จนนิชคุณไม่ทันได้ยิน
จุนโฮลากสังขารไปอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ซุปก็มาถึงห้องพอดี หลังจากกินซุปเสร็จ สภาพจุนโฮค่อยเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย
“จุนโฮ พี่ถามอะไรหน่อย” นิชคุณอยากอธิบายให้จุนโฮเข้าใจ แผนของแทค
“เราสายแล้วไม่ใช่หรอครับรีบไปเถอะ” จุนโฮตัดบท พร้อมยิ้มให้นิชคุณสบายใจ
ที่หน้าห้อง ชานซองเองก็เป็นห่วงจุนโฮ .... ชานซองอยากเข้าไปดูจุนโฮใจจะขาด แต่อุตส่าห์ทำขนาดนี้แล้วต้องอดทนต่อให้จบ ชานซองกำลังจะเดินจากไป จุนโฮก็ออกมาพอดี เห็นหน้าจุนโฮแล้วชานซองแทบเอื้อมมือไปคว้ามากอด ร่างบางตรงหน้าดูอ่อนล้าเหลือเกิน
จุนโฮสบตาชานซอง แว้บเดียวเท่านั้น เขาคงทนไม่ได้ถ้าต้องมองนานกว่านี้ เชิดหน้าเข้าไว้อีจุนโฮ แล้วเดินผ่านชานซองไปแบบไร้ตัวตน เจ็บอีกแล้ว อดทนไว้จุนโฮ เพื่อพี่คุณนะ ต้องอดทน
.
.
.
“แทค บอกจุนโฮเถอะ” นิชคุณสงสารจุนโฮจับใจ แบบนี้ไม่ดีทั้ง 2 ฝ่าย
“อีกนิดเดียวคุณ ตอนนี้จุนโฮคงรู้ตัวแล้ว” ไม่ใช่แทคไม่สงสารทั้งคู่ แต่เขาก็อยากให้ทุกอย่างเคลียร์ จะได้ไม่ต้องมีใครรู้สึกผิดที่ไปรักใครอีก
ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ถึงแม้จะไม่มีโมเม้นท์ชานนูนอ แต่แทคคุณก็น่าจะพอให้แฟนๆ มีความสุขได้ หลังคอนเสิร์ตวันนี้ไม่มีงานปาร์ตี้ เพราะพรุ่งนี้ต้องบินไปภูเก็ตกันอีก
คืนนี้ในห้องที่ควรจะเป็นของจุนโฮกับชานซอง กลับไร้เงาของคนทั้งคู่
จุนโฮไปนอนห้องมินจุน ส่วนชานซองไปขอนอนกับพี่นัมยอง
ทั้ง 6 คนเดนทางมาถึงภูเก็ต แต่เช้า อูยองกับมินจุน ร่าเริงเกินจำเป็น แต่จุนโฮกับชานซองคนที่เฝ้ารอมาเที่ยวภูเก็ต กลับดูห่างเหิน เจ็บปวด
“อูยอง นายนอนห้องเดียวกับชานซองนะ ฉันขอนอนกับพี่มินจุน” อูยองไม่ปฏิเสธ เพราะรู้ว่า 2 คนนี้มีปัญหา
หลังเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ทุกคนก็เริ่มทำงานเลย เวลาพักผ่อนของพวกเขา คือมะรืนนี้ต่างหาก ก่อนมาเมืองไทย ทุกคนเฝ้ารอวันหยุดที่ภูเก็ต พวกเขาวางแผนเที่ยวกันไว้แล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้ แผนที่วางไว้อาจพังไม่เป็นท่า อูยองคิดแล้วก็นึกเสียดาย พอยูยองจะลากกระเป๋าตามจุนโฮเข้าไป ชานซองก็มารั้งไว้ก่อน
“สลับห้องกัน ฉันมีเรื่องต้องคุยกับจุนโฮ” ชานซองอยากจบละฉากนี้แล้ว เขาไม่อยากเสียจุนโฮไปจริงๆ
“อูยอง นายจะนอนเตียงไหน”
“ริมประตู นายชอบนอนริมหน้าต่างนี่” จุนโฮหันกลับมาเจอชานซองยืนยิ้มอยู่
“ชานซอง ....นายออกไปเถอะ” ใจนึงก็ดีใจที่เขากลับมา แต่ก็เจ็บปวดที่เรารักกันไม่ได้
“นูนอ ไม่เคยรักชานจริง ๆ หรอ ไม่เคยรักเลยหรอ” ชานซองคว้าจุนโฮ มากอด
“ฉัน...ฉัน..ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนาย ไม่เคยคิด ไม่เคย...” จุนโฮปฏิเสธด้วยเสียงแผ่วเบา
“มองหน้าชานสิ นูนอ มองหน้าชานแล้วตอบสิ” ชานซองเขย่าจุนโฮที่แทบไม่มีแรงยืน
“เจ็บ โฮเจ็บ” ชานซองคายมือออก เขาไม่ได้ตั้งใจ
“คุยกันก่อนนะนูนอ”
“นายต้องการเวลาคนเดียวหรอ ปล่อยฉัน ถ้านายไม่ออกไป ฉันไปเอง”
“เข้าใจแล้ว .... นายอยู่ห้องนี้เถอะ ฉันจะไปตามพี่มินจุนให้ สภาพนายแบบนี้ อยู่กับพี่มินจุนดีกว่า”
ชานซองลากกระเป่า ไปตามมินจุน
มินจุนมาถึงห้องก็เห็นจุนโฮ ยืนเหม่ออยู่ที่ระเบียง
“ชอบเขาไม่ใช่หรอ” มินจุนถามเสียงนุ่มพรางโอบไหล่จุนโฮไว้
เขาเป็นพี่ชายที่ดีจริง ๆ อบอุ่นและเข้าใจพวกเราทุกคน ขอยืมไหล่กว้างๆ นี้พักสักหน่อยนะ จุนโฮซบลงที่ไหล่กว้าง แล้วกอดมินจุนไว้ เหมือนเป็นหลักยึด ถ้าคืนนี้ต้องอยู่คนเดียว เขาจะผ่านมันได้มั๊ย
พอรู้ว่าต้องแยกกัน ใจมันโหยหาแต่ชานซอง อยากอยู่กับเขา อยากเห็นหน้าเขา ทั้งที่ปกติ เราก็ไม่ได้เจอกันทุกวัน หรืออยู่ด้วยกันตลอด ทรมานจัง
“พี่ยังไม่เหมื่อยใช่มั๊ย ขอผมอยู่แบบนี้อีกหน่อยนะ”
“อย่าฝืนเลย ความจริงอาจไม่ใช่อย่างที่นายคิดก็ได้ นี่นายคงจำเรื่องเมื่อ 2 ปีก่อนได้แล้วสินะ เวลา 2 ปี ที่นายเพิ่งจำได้ มันคงเหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อวาน แต่ความจริงน่ะ 2 ปี มันนานจนอะไรๆ ก็เปลี่ยนได้”
“ความรักก็เปลี่ยนได้หรอครับ” จุนโฮผู้อ่อนด้อยเรื่องความรัก
“ได้สิ จุนโฮเองก็เปลี่ยนไม่ใช่หรอ”
“ผมไม่รู้ ผมรักใคร ผมไม่รู้จริงๆ” น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นสาย มินจุนสงสารจนแทบอยากเดินไปชกหน้าแทคยอนกับชานซองตัวก่อเรื่องทันที
“พรุ่งนี้ลองสังเกตุรอบ ๆ ตัวนะ จะเข้าใจที่พี่พูด วันนี้ไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวหน้าบวมนะ” จุนโฮเผลอยิ้มออกมา สมเป็นพี่มินจุน เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวต้องแยกกันเสมอ
เช้านี้เขาจะลองสังเกตุทุกคนแบบที่พี่มินจุนบอก พี่คุณกับพี่แทคนั่งทานข้าวด้วยกัน พี่มินจุนกับอูยองทานข้าวเสร็จไปเดินเล่น ส่วนชานซอง ยังไม่เห็นเลย นี่เขาหายไปไหนนะ แม้จะสงสัย แต่ไม่ถามดีกว่า
“จุนโฮ พี่มีเรื่องจะบอก” แทคยอนไม่รู้ว่าควรจะเริ่มยังไง
“ครับ”
“คือพี่กับพี่คุณ เราคบกันน่ะ จุนโฮก็ไม่ต้องปฏิเสธชานซองแล้วนะ” ไม่รู้จะเริ่มยังไง บอกไปตรงๆ แล้วกัน
“เมื่อไหร่ พี่เริ่มคบกันเมื่อไหร่” จุนโฮ เหวี่ยงด้วยความโกรธ ทำไมเพิ่งมาบอก ทำไมให้เขาทำร้านชานซอง
“พี่แค่อยากให้จุนโฮ ยอมรับความรู้สึกตัวเองแค่นั้น พี่ไม่อยากให้จุนโฮโทษตัวเองอีก อยากให้รักใครได้อย่างเปิดใจ” สีหน้าแทคยอน เสียใจจริงๆ
“.................” จุนโฮ กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิน พี่คุณกับพี่แทคคบกัน พี่คุณกับเขาเปลี่ยนไปแล้ว มีแค่ชานซองเท่านั้นที่รักเขาไม่เคยเปลี่ยน แล้วนี่เขาทำไรไป เขาทำร้ายคนที่เขารัก ทำไมเป็นเขาที่คอยทำร้ายคนอื่น ไม่ว่าจะ 2 ปีก่อนหรือตอนนี้
“พี่รู้ว่าทำเกินไป พี่ขอโทษ” จุนโฮไม่ตอบแต่ลุกเดินออกไป
การทำงานวันนี้จุนโฮต้องรวรวมสมาธิอย่างมาก แฟนๆ อยากเห็นด้านมีความสุขของพวกเขา เขาจะลืมเรื่องนั้นไปก่อน เสร็จงานก่อนค่อยจัดการปัญหานี้
“จุนโฮ “ ชานซองเดินยิ้มมาแต่ไกล จุนโฮเจ็บปวดจริงๆ ที่ไปทำร้ายเขา
“..........” รู้สึกผิด ไม่รู้จะตอบยังไง
“นูนอ เราไปทานข้าวกันนะ ชานมีเรื่องจะคุยด้วย” ยิ้มแบบที่ใครๆ ต้องตกหลุมรัก
“งั้นฉันไปเปลี่ยนชุดก่อน” จุนโฮต้องเตรียมคำขอโทษให้ชานซอง
ร้านอาหารริมทะเลที่จะมองเห็นดวงอาทิตย์ลับขอบทะเล ต้องถูกใจนูนอแน่ๆ ถึงแม้เวลานี้จะไม่เห็นดวงอาทิตย์แล้วก็ตาม จุนโฮมาด้วยชุดสบายๆ แต่สดใส เสื้อยืดสีขาวกับขาสั้นสีครีมเข้าชุด รองเทาหนังสีน้ำตาล ชานซองชอบจุนโฮที่แต่งตัวสบายๆ แบบนี้ ระหว่างรออาหารชานซองที่อึดอัดมาหลายวันเริ่มพูดก่อน
“คืนนั้น นายไปนอนที่ไหน ฉันเป็นห่วงนายมากเลยนะ”
“แค่เปิดห้องใหม่น่ะ จริงๆ ก็อยู่ติดกับห้องนายนั่นแหละ” ชานซองลงทุนจ่ายเงินเองเพื่อแผนนี้เชียวนะ
ยังไม่ทันคุยกันต่อ อาหารก็มาพอดี ทั้งคู่คุยกันเรื่องช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่าน ระหว่างเขากับชานซองมีเรื่องราวมากมาย จนจุนโฮลืมเรื่องที่แทคยอนคบกับนิชคุณไปเลย หลังอาหารทั้งคู่สั่งไวน์มาและแน่นอนมีแค่ชานซองเท่านั้นที่ดื่ม
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าช่วงเวลาที่ไม่มีนาย ฉันจะเป็นได้ขนาดนี้” จุนโฮยิ้มเขินๆ เขาไม่เคยคิดว่าจะสารภาพก่อน
“ฉันก็เหมือนกัน การต้องทำตัวห่างเหินแบบนั้น ฉันปวดใจมากเลย”
“นายจะทิ้งฉันไปจริงๆ หรอ จะเลิกรักฉันหรอ” จุนโฮอยากรู้จริงๆ
“ไม่หรอก ฉันไม่เคยคิดจะเลิกชอบนายเลย ฉันแค่ตามน้ำไป เผอิญฉันได้ยินพี่แทคบอกพี่ตุณน่ะ ฉันก็อยากรู้ว่าจริงๆ นายคิดยังไงกันแน่” พูดจบก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดมากไป
“เข้าใจแล้ว เรื่องนี้ฉันโง่อยู่คนเดียว” พูดจบก็ลุกออกจากร้านไป ทิ้งชานซองให้นั่งเอ๋อแบบนั้น กว่าจะรู้สึกตัวจุนโฮก็กลับถึงโรงแรม เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ชานซองตามกลับตอนจุนโฮกำลังลากกระเป๋าออกมาจากห้อง ชานซองตามก่อนที่จุนโฮจะออกจากห้องพอดี
“นายจะไปไหน” ชานซองกระชากแขนร่างบางมากอดไว้
“ปล่อย ฉันไม่ใช่ตัวตลกของพวกนายนะ” จุนโฮทั้งเจ็บทั้งอายที่โดนหลอกแบบนี้
“ชานขอโทษ ถ้าแค่บอกนูนอคงไม่เชื่อแน่ ทำแบบนี้น่าจะดีที่สุดสำหรับเรา”
“เราหรอ คิดว่าทำแบบนี้แล้ว ฉันจะยังรักนายได้หรอ” จุนโฮพูดเพราะเจ็บใจมากกว่า รู้สึกจริงๆ
“ชานจะพิสูจน์ให้ดู” พูดจบก็ประกบปากจูบคนตัวเล็กตรงหน้า จูบนี้อ่อนหวาน นุ่มนวล ไม่ลุกเร้า แต่ปลุกความทรงจำของคืนนั้น คืนแรกที่เขาได้สัมผัสกับความรัก ชานซองมั่นคงต่อเขาจริงๆ
“หลังจูบนี้แล้ว ถ้านูนอยังยืนยันว่า ชานไม่ใช่ ชานจะจบมันเอง” ชานซองประคองหน้าจุนโฮให้มองหน้าเขา เพราะมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นกันใกล้ ๆ แบบนี้
“.....” จุนโฮรู้คำตอบในใจแล้ว แต่ยังไม่ทันตอบ
“นี่คือการปฏิเสธสินะ ขอบคุณทึ่ไม่พูดมันออกมา” คำตอบที่ชานซองไม่คาดคิด 2 มือที่ประคองหน้าจุนโฮไว้เมื่อครู่ ตกลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ชานซองหันหลังกลับกำลังจากจากไป
“เป็นนาย คำตอบของฉันคือนายชานซอง” จุนโฮโผมากอดหลังชานซองไว้
“ขอบคุณนะ” ชานซองหันมาจูบจุนโฮอีกครั้ง ครั้งนี้หวานกว่าทุกครั้ง
“วันนี้แค่จูบพอนะ พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆ ไปเดทกัน เรายังมีเวลาก่อนกลับ” จุนโฮวางแผนในใจ
“แต่วันนี้เราก็นอนห้องเดียวกันนี่น่า จะให้แค่จูบจริงๆ หรอ” หมีใช้ลูกอ้อน ที่ได้ผลกับพี่คุณทุกครั้ง แต่ไม่ใช่กับนูนอคนใจแข็ง
“นายนอนเตียงใกล้ประตู แล้วอย่าคิดลามกกับฉันนะ” แน่นอน ชานซองไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น ชานซองตั้งใจจะทำต่างหาก จุนโฮผู้ไร้เดียงสาจะผ่านคืนนี้ไปได้หรือเปล่านะ